ธรณีวิทยาโครงสร้างทางธรณีวิทยาของนครไทย พื้นที่มีหินเป็นพื้นฐาน ส่วนใหญ่ประกอบด้วยหินทราย ซึ่งอยู่ในกลุ่มหินโคราชหมวดหินภูพานและหมวดหินเขาพระวิหาร มีลักษณะเป็นหินกรวดมน เนื้อแน่น ชั้นหนา มีสีเทาแกมเหลืองไปจนสีชมพูแกมเทาและหินทรายมีเนื้อแน่นชั้นหนามีสีแดงแกมเทาไปจนถึงสีเทาแกมเขียวและขาว กับมีหินดินดานสีน้ำตาลแกมแดงเข้มเนื้อปนไม้ก้าและหินทรายสีแดงแกมเทาเนื้อเปาไมก้า ลักษณะนี้จัดอยู่ในยุคยูเรสสิก มหายุคเมโสโซอิคและบางส่วนจัดอยู่ในหมู่หินภูกระดึง ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยหินดินดานเนื้อปนไมก้าน้ำตาลเข้มแกมเทาและแดง กับหินทรายแห้ง หินทรายเนื้อปนไมก้าและหินกรวดมน จัดอยู่ในยุคยูแรสสิกและไทรแอสสิก (Jurassic and Trassic) มหายุคเมโสโซิค แหล่งน้ำธรรมชาติ แม่น้ำสำคัญสายหลักของชุมชนเมืองนครไทย คือแม่น้ำแควน้อย ซึ่งมีแหล่งกำเนิดจากการรวมตัวของลำห้วยหลายสายจากชายแดนประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อยแล้วไหลผ่านพื้นที่ของอำเภอนาแห้วจังหวัดเลย ไหลเข้าไปในเขตพื้นที่ของอำเภอนครไทยตรงบริเวณ ตำบลน้ำกุ่ม ผ่านตำบลนครชุม นาบัว เนินเพิ่ม นครไทยและหนองกะท้าว ไหลผ่านไปยังท้องที่ของอำเภอชาติตระการ อำเภอวัดโบสถ์ อำเภอพรหมพิราม ไหลผ่านตำบลโคกช้างอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลกและไหลไปรวมกับแม่น้ำวังทอง ที่อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก จากนั้นไหลไปรวมกับแม่น้ำน่านที่ตำบลท่าฬ่อ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตรนอกจากแม่น้ำแควน้อย ยังมีมีลำห้วยอีกหลายสาย เช่น ห้วยน้ำคาน ห้วยน้ำขะมึน เกิดจากทิวเขาข้อโปงและทิวเขาหินร่องกล้า ห้วยจอมสิงห์เกิดจากเขาน้อย และมีห้วยเผาลาด ห้วยบัวไหล ห้วยน้ำพริก ซึ่งเกิดจากเทือกเขาทางด้านตะวันออก แล้วไหลไปรวมกับแม่น้ำแควน้อยในเขตอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
ภูมิอากาศเนื่องจากสภาพภูมิประเทศ ของเมืองนครไทยประกอบด้วย ที่ราบ หุบเขาและภูเขาสูง จึงทำให้มีภูมิอากาศแตกต่างจากอำเภออื่น ๆ ในจังหวัดพิษณุโลก ดังนี้
ฤดูร้อน อากาศแห้งแล้ง ร้อนจัดในเดือนเมษายนและไปสิ้นสุดฤดูร้อนในเดือนพฤษภาคม
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และไปสิ้นสุดในเดือนตุลาคมอากาศในเดือนนี้จะมีความชื้นสูง มีฝนตกชุก ตอนกลางคืน อากาศเย็นถึงเย็นมาก
ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่ เดือนตุลาคมไปถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ช่วงนี้อากาศหนาวเย็นและแห้งแล้งในเดือนมกราคม อากาศจะหนาวเย็นที่สุดประมาณ 7-3 องศาเซลเซียส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น